อาการปวดแขนและปวดหลังที่พบบ่อยในลูกค้ามาใช้บริการร้านนวด ที่แบบไหนควรนวดหรือไม่ควรนวด
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าการนวดนั้นจะเป็นการใช้เทคนิคในการกดกล้ามเนื้อเพื่อกระตุ้นหรือสร้างความยืดหยุ่นรวมไปถึงการกดเส้นประสาทการสัมผัสต่างๆโดยการใช้ฝ่ามือนิ้วมือหัวแม่มือเข่า ในการกดหรือการยืดการบิดตามร่างกายบริเวณจุดต่างๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตในร่างกายและระบบน้ำเหลืองให้ดีขึ้นสำหรับการนวดนั้นไม่ใช่ว่าจะสามารถนวดได้ทุกจุดทุกที่ หากลูกค้ามีอาการ ก่อนทำการนวดว่าปวดแขนหรือปวดหลังที่พบบ่อยในลูกค้ามาใช้บริการ จะมีวิธีการสังเกตอย่างไรว่าอาการปวดหลังแบบนี้หรือปวดแขนแบบนี้จะสามารถทำการนวดได้ หรือไม่ควรนวด
เรามีข้อสังเกตว่าอาการแบบไหนที่ สามารถนวดได้หรืออาการแบบไหนที่ไม่ควรนวดสำหรับลูกค้าที่มีอาการปวดแขนและปวดหลัง ดังต่อไปนี้
อาการปวดแขน
สำหรับอาการปวดแขนนั้นพบบ่อย เนื่องจากสาเหตุในการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน แต่อาการปวดแขนที่สามารถนวดได้ก็คือปวดแขนจากการยกของหนัก ปวดแขนจากการใช้แขนทำงานเป็นเวลานานๆในท่าเดิมๆ ปวดแขนจากการทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสม สาเหตุดังกล่าวสามารถทำการนวดได้
อาการปวดแขนที่ไม่ควรนวด
- มีอาการปวดบวมแดงหรือรู้สึกร้อนตามข้อของแขน
- กระดูกแขนมีลักษณะผิดรูปหรือมีอาการปวดมากจนเคลื่อนไหวข้อลำบาก หลังจากได้รับบาดเจ็บอาจเนื่องมาจากกระดูกร้าวหรือหัก
- รู้สึกปวดร้าวและชามาที่ไหล่ ลงไปตามช่วงแขน เนื่องมาจากรากเส้นประสาทถูกกดทับ
- มีอาการปวดชาช่วงมือเวลากลางคืนหรือเวลางอข้อมือเร็วๆเนื่องมาจากเป็นโรคพังผืดรัดเส้นประสาทมือ
อาการปวดหลัง
สำหรับอาการปวดหลังที่พบบ่อยในลูกค้ามาใช้บริการเช่นมาจากสาเหตุการใช้ชีวิตประจำวันในการทำงานรวมไปถึงการทำงานที่ผิดพลาดแต่อาการที่สามารถนวดได้ก็คือ
- ปวดหลังจากการนั่งการยืนหรือการนอนในท่าที่ไม่เหมาะสมเช่นการนั่งพับเพียบนานๆหรือนั่งตัวงอการยืนนานๆหรือที่นอนที่นุ่มหรือแข็งเกินไปก็มีส่วนทำให้ปวดหลังได้
- ปวดหลังสาเหตุจากการทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสมเช่นการก้มตัวยกของโดยที่ไม่งอเข่าหรือการเอื้อมมือยกของจากที่สูง
- ปวดหลังจากการทำงานในท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานาน
- ปวดจากการยกของหนักจนเกินไป
- การปวดหลังจากความอ้วนหรือมีน้ำหนักตัวมากเกินไปหรือจากความเครียด
อาการปวดหลังที่ไม่ควรนวด คือ
– อาการปวดหลังที่ร้าวเสียวตามสะโพก ช่วงหลังขาและหน้าแข้ง เพราะว่าอาจเกิดจากร่างของเส้นประสาทช่วงเอวถูกกดทับ
- ปวดหลังแล้วมีอาการชาตามแขนขาและขยับไม่ได้ทั้งสองข้าง อาจมีสาเหตุเนื่องมาจากไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ
- อาการปวดหลังที่มีไข้ร่วมด้วย และมีปัสสาวะขุ่น เคาะหลังจะมีอาการเจ็บเนื่องมาจากอาจมีการติดเชื้อที่ไต
จะเห็นได้ว่าอาการปวดแขนและปวดหลังก็มีส่วนเชื่อมกับเส้นประสาท กำลังกายบริเวณนี้ส่งผลถึงกันได้ดังนั้นหากมีลูกค้ามาใช้บริการหมอนวดที่ผ่านการอบรมเรียนนวดมาแล้วจะรู้ข้อห้ามในการนวดหรือหากบุคคลทั่วไปก็สามารถศึกษาข้อมูลไว้เป็นความรู้ติดตัวได้หากวันนึงเราต้องไปใช้บริการร้านนวดและมีอาการดังกล่าวเราจะได้รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวและระวังตัวเองได้ค่ะ