ประวัติวิธีการนวดแบบบาหลีมีความเป็นมาอย่างไร และเป้นวิธีการนวดแบบใหน
ประวัติวิธีการนวดแบบบาหลีเป็นการนวดกดด้วยมือและนิ้วมือปราศจากการใช้น้ำมันกดลึกลงไปถึงเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อเพื่อคลายกล้ามเนื้อและทุเลาความเมื่อยล้าของร่างกายซึ่งเกิดจากความเครียดความเหนื่อยล้าเมื่อนิ้วกดลงไปกระตุ้นกล้ามเนื้อความรู้สึกเครียดนั้นจะถูกปลดปล่อยออกมาทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที ซึ่งชาวอินโดนีเซียจะเข้มงวดมากสำหรับอาชีพธุรกิจ และทุก 6 เดือนพวกเขาต้องตรวจเช็คร่างกาย ผ่านการฝึกอบรมฝึกหัดและจำเป็นต้องสอบผ่านจากสถาบันที่รับรองกระทรวงแล้วต้องไม่เป็นโรคที่ขัดต่อการปฏิบัติวิชาชีพหรือโรคติดต่อเนื่องจากต้องให้บริการอย่างใกล้ชิดกับแขกจึงต้องมีสมรรถภาพที่พร้อมให้บริการโดยมีใบรับรองจากทางการให้ประกอบอาชีพนี้ได้นอกจากเธอราปิสทุกคนจะต้องฝึกโยคะเพื่อให้มีร่างกายแข็งแรงมีแรงที่ออกมาจากด้านใน
การนวดบาหลีต้องใช้พลังจากภายในร่างกาย และ ผู้นวดที่ดีจะต้องมีมือที่ร้อนหรืออบอุ่นตั้งแต่ปลายนิ้วเลยก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งการนวดบาหลีนั้นสืบสานเป็นวัฒนธรรมในการบำบัดรักษาสุขภาพทั้งทางกายและทางใจสืบต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันตอนนี้การนวดบาหลีกำลังแพร่กระจายไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้
สำหรับข้อควรระวังในการนวดบาหลี มีดังนี้
- ห้ามนวดบริเวณบาดแผลอาจจะเกิดการติดเชื้อเจ็บป่วย หรือแผลแยกทำให้หายช้าแต่นวดเบาๆรอบๆแผลได้
- ห้ามนวดบริเวณผิวดำคล้ำเพราะเนื้อตายจากเส้นเลือดอุดตันเส้นเลือดไปเลี้ยงน้อย เพราะการนวดอาจทำให้ก้อนเลือดในหลอดเลือดดำไปอุดหลอดเลือดในปอดหรือสมอง ถ้าจำเป็นต้องนวดจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ปัจจุบันการนวดบาหลีได้นำมาประยุกต์ใช้ในไทยโดยคล้ายๆเป็นการลงน้ำมันเพิ่มเติมและประยุกต์ท่าใหม่ให้ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นโดยสามารถนำไปเสริมบริการของร้านสปาได้ซึ่งเป็นการนวดเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมของบุคคลหลายกลุ่มทั้งไทยและชาวต่างชาติ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการการประกอบธุระกิจ และการดูแลตนเองขั้นพื้นฐาน ปัจจุบันการนวดเพื่อสุขภาพกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในบุคคลหลายๆกลุ่ม และผู้ที่เคยได้รับการนวดเพื่อสุขภาพต่างก็ชอบและให้ความสนใจที่จะเรียนรู้ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการนวดเพื่อสุขภาพ ธุรกิจสปา การเปิดหลักสูตรเรียนนวดสปา มากยิ่งขึ้นค่ะ