อาการผิดปกติต่างๆ ที่พบหรือเกิดขึ้นหลังจากที่ได้รับการนวด
ในการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันนั้น หลายคนส่วนใหญ่มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายปวดบ่าไหล่ ปวดแขน ปวดขา หรือ มีอาการไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว นอกจากการไปพบแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อทำการรักษาตามอาการและในการรักษาทางด้านศาสตร์ของการนวด และมีหลายอาการที่หมอทางแพทย์แผนปัจจุบันอาจจะรักษาแล้วเห็นผล แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาการเดิมก็กลับมาเป็นอีก
ปัจจัยที่ส่งเสริม ให้เกิดอาการปวดหลังปวดเอวในการใช้ชีวิตประจำวัน
-การนอนในท่าที่ไม่เหมาะสมมีบุคลิกภาพที่ทำให้หลังค่อม เป็นผลให้มุมมองของกระดูกเชิงกรานซึ่งเกิดจากขอบบนของกระดูกกระเบนเหน็บทำมุมกับแนวระดับถ้าทำวงกว้างมากขึ้นการรับน้ำหนักของหมอนรองกระดูกผิดปกติไปทำให้เกิดการเสื่อมของหมอนรองกระดูกในที่สุด
– การใช้ท่าทางของการออกแรง เช่น นั่งหลังค่อม การยืนก้มเงยๆ หรือแอ่นหลังตลอดเวลา เป็นต้น
-ท่าทางในการยกของหนักไม่เหมาะสมทำให้อัตราการรับน้ำหนักของโครงสร้างของร่างกายไม่สมดุลย์เกิดการเสื่อมของข้อและบริเวณที่รับน้ำหนักนอกจากนี้การยกของหรือเยี่ยวตัวกระทันหันทำให้การหดตัวของกล้ามเนื้อไม่สมดุลกัน
นอกจากนี้หาก มีอาการปวดหลังแล้ว การบั้นเอวและสะโพกก็เป็นจุดที่ปวดเชื่อมโยงเช่นกันการปวดเมื่อยบริเวณบั้นเอว และพบได้บ่อยในการเดินระยะไกลหรือขณะยกของหนักการปวดอาจมีอาการร้าวไปที่ขา คล้ายคลึงกับมีการกดทับของเส้นประสาท ที่เป็นเลี้ยงขา ส่วนสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบริเวณเอวและสะโพก
การนวดบำบัดหรือการนวดผ่อนคลายบางครั้งอาจจะดูเหมือนว่าไม่มีความเสี่ยงร้ายแรงใดๆหากผู้ที่เข้ารับการนวดได้รับการดูแลจากผู้นวดที่ได้รับการฝึกอบรมการเรียนนวดและฝึกฝนในแนวทางที่ถูกต้อง รู้ข้อห้ามและข้อควรระวังที่เหมาะสมโดยการปฏิบัติควรระมัดระวังและสังเกตกรณีของผู้เข้ารับบริการว่ามีความเจ็บป่วยมากน้อยเพียงใดเคยมีประวัติหรือผลข้างเคียงจากการนวดทั้งการบำบัดและการนวดเพื่อการผ่อนคลายหรือไม่ทั้งนี้รวมไปถึงอาการ ปวดบริเวณต่างๆในร่างการด้วยค่ะ