ท่าฤาษีดัดตนของคนไทยไม่ใช่ทาสที่ผาดโผนหรือฝืนร่างกายมากจนเกินไป

ท่าฤาษีดัดตนของคนไทยไม่ใช่ทาสที่ผาดโผนหรือฝืนร่างกายมากจนเกินไป

ฤาษีหมายถึงนักพรตหรือนักบวชที่อาศัยอยู่ตามป่าเขาลำเนาไพรในตำนานหรือนิทานโบราณมักจะ เรียกผู้ที่เป็นนักบวช ว่าฤาษี ซึ่งเมืองไทยในอดีตน่าจะมีนักบวชประเภทนี้แสวงหาความสงบสันโดษอยู่ตามป่าเขาเมื่อได้บำเพ็ญเพียรสมาธินานๆอาจจะมีอาการเมื่อยขบ จึงได้ทดลองขยับเขยื้อนร่างกายมีการยืดการงอ และเกร็งตัวดัดตนเพื่อให้เกิดเป็นธาตุต่างๆซึ่งทำให้อาการเจ็บปวดอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อนั้นหายไปได้จึงได้ข้อสรุปว่า ประสบการณ์บอกเล่าสืบต่อกันมาหรืออาจเกิดจากการคิดค้นของบุคคลทั่วไปเพราะในสังคมไทยมากกว่า 2000 ปีเรามีศาสนาพุทธเป็นที่ยึดเหนี่ยวในการปฏิบัติตนดังนั้นนักบวชนักพรตก็อาจจะเป็นชาวพุทธที่นั่งสมาธิวิปัสสนากรรมฐานหรืออาจจะเป็นอุบาสกอุบาสิกาและแม้แต่พระสงฆ์ สำหรับการปั้นรูปฤาษีนั้น ไม่มีหลักฐานว่าพระมหากษัตริย์ไทยลอกแบบมาจากที่ใดแต่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าคนไทยเคารพนับถือฤาษีเป็นครูบาอาจารย์การปั้นเป็นรูปฤาษีเปรียบเสมือนได้ฝึกกับครูเพราะฤาษีเป็นครูของศิลปะวิทยาการต่างๆ จากที่ผ่านมา มีผู้คนบางคนพยายามเชื่อมโยงว่าคนไทยเลียนแบบท่าฤาษีดัดตนจากท่าโยคะของอินเดียและพยายามนำถ้าไปเทียบเคียงกันเพื่อพิจารณาแล้วว่าไม่พบว่าไม่เหมือนการโดยเฉพาะท่าฤาษีดัดตนของคนไทยไม่ใช่ทาสที่ผาดโผนหรือฝืนร่างกายมากจนเกินไป ส่วนใหญ่จะเป็นท่าดัดตามอริยบทของคนไทยมีความสุภาพทั่วไปสามารถทำได้ การนวดฤาษีดัดตน จะไม่พบในหลักสูตรการเรียนนวดพื้นฐานแต่จะเป็น การนวดขั้น Advance อีกขั้นหนึ่ง ซึ่งจะต้องมีพื้นฐานในการนวดแผนไทยก่อนเพื่อที่จะได้เรียนรู้แนวเส้นตามร่างกายต่างๆ ดังนั้นเราจะสังเกตเห็นได้ว่าหมอนวดหรือผู้ให้บริการทางการนวดนั้นเมื่อเวลาปวดเมื่อยตามร่างกายหาก ไม่ให้เพื่อนด้วยการนวดให้แล้วเขาจะใช้วิธีการแก้ปวดเมื่อยตามร่างกายด้วยการ ทำท่าฤาษีดัดตน ก็จะช่วยให้เขาหายปวดเมื่อยในร่างกายได้